วิธีการแปลง TXT เป็น JSON โดยใช้ C#

วิธีการแปลง TXT เป็น JSON โดยใช้ C#

การแปลงไฟล์ข้อความเป็น JSON มีประโยชน์เมื่อรวมข้อมูลจากไฟล์ที่มีอยู่หรือข้อมูลแบบแบนเข้าสู่ API หรือท่อข้อมูลสมัยใหม่ ด้วย Aspose.Cells for .NET คุณสามารถแปลงไฟล์ .txt เป็นรูปแบบ .json ได้อย่างราบรื่นด้วยบรรทัด C# เพียงไม่กี่บรรทัด

ทำไมต้องแปลง TXT เป็น JSON?

  1. ความเข้ากันได้ของแอปพลิเคชัน:
    • JSON เป็นรูปแบบมาตรฐานสำหรับระบบเว็บและแบ็กเอนด์ ทำให้เหมาะสำหรับการถ่ายโอนข้อมูล
  2. ผลลัพธ์ที่มีโครงสร้าง:
    • แปลงข้อความดิบเป็น JSON ที่มีโครงสร้างเพื่อการจัดการและการอ่านที่ง่ายขึ้น
  3. การทำงานอัตโนมัติ:
    • กำจัดงานแปลงด้วยมือด้วยตรรกะ C# ที่สามารถโปรแกรมได้

คู่มือทีละขั้นตอนในการแปลง TXT เป็น JSON

ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง Aspose.Cells ผ่าน NuGet

เพิ่มไลบรารี Aspose.Cells ลงในโปรเจกต์ .NET ของคุณ:

dotnet add package Aspose.Cells

ขั้นตอนที่ 2: กำหนดค่าใบอนุญาต

เปิดใช้งานฟีเจอร์ที่ได้รับใบอนุญาต:

Metered matered = new Metered();
matered.SetMeteredKey("PublicKey", "PrivateKey");

ขั้นตอนที่ 3: โหลดไฟล์ TXT

เริ่มต้น Workbook และโหลดไฟล์ .txt ที่เป็นข้อมูลนำเข้า:

Workbook workbook = new Workbook("sampleTxt.txt");

ขั้นตอนที่ 4: ตั้งค่า JsonSaveOptions

สร้างอินสแตนซ์เพื่อจัดการวิธีการบันทึกข้อมูล:

JsonSaveOptions options = new JsonSaveOptions();

ขั้นตอนที่ 5: ส่งออกเป็น JSON

แปลงเนื้อหาของ workbook เป็นรูปแบบ JSON:

workbook.Save("output.json", options);

ขั้นตอนที่ 6: บันทึกผลลัพธ์ JSON

ผลลัพธ์จะถูกบันทึกเป็นไฟล์ .json บนดิสก์

ขั้นตอนที่ 7: ปรับแต่งผลลัพธ์ (ไม่บังคับ)

ใช้ JsonSaveOptions เพื่อปรับแต่งตัวเลือกการส่งออก เช่น:

  • การเรียงลำดับคีย์
  • การตั้งค่าแถวหัว
  • ข้ามแถวหรือชีตที่ว่างเปล่า

ปัญหาทั่วไปและวิธีแก้ไข

1. รูปแบบไฟล์ TXT ไม่ถูกต้อง

  • วิธีแก้ไข: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์ TXT มีโครงสร้างด้วยตัวแบ่งที่สม่ำเสมอ (เช่น แท็บหรือคอมมา) เพื่อช่วยในการแยกข้อมูล

2. ผลลัพธ์ว่างเปล่าหรือบางส่วน

  • วิธีแก้ไข: ใช้ JsonSaveOptions เพื่อให้แน่ใจว่าแถวและคอลัมน์ที่เหมาะสมถูกเลือกสำหรับการส่งออก

3. ข้อผิดพลาดในการเข้าถึงไฟล์

  • วิธีแก้ไข: ตรวจสอบเส้นทางไฟล์และสิทธิ์เมื่อโหลดหรือบันทึกไฟล์
 แบบไทย